บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 12

วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน 2559 เวลา 13.00-17.30 น.



ความรู้ที่ได้รับ♥    

     วันนี้พวกเราได้เรียนรู้เพลงใหม่อีก 5เพลงซึ่งเป็น5เพลงสุดท้ายที่จะได้เรียนรู้ในเทอมนี้สำหรับวิชานี้ เพลงใหม่สำหรับวันนี้คือ เพลงดวงอาทิตย์ เพลงดวงจันทร์ เพลงรำวงดอกมะลิ เพลงดอกมะลิ และเพลงดอกกุหลาบ

เพลงใหม่

     หลังจากที่พวกเราได้เรียนรู้เพลงใหม่แล้วอ.เบียร์ก็ได้ให้พวกเราทำงานกลุ่มซึ่งเป็นงานที่เกี่ยวกับทักษะทางภาษาของเด็ก โดยให้เด็กๆทายว่าสิ่งที่อยู่ในกระดาษนั้นคือรูปอะไร โดยในกระดาษแผ่นนั้นๆจะมีรูปและคำอธิบายลักษณะของสิ่งนั้นๆอยู่ด้วย

ช่วยกันทำงานกลุ่ม

ช่วยกันทำงานกลุ่ม

โดยกลุ่มของเราใช้ชื่อรูปปริศนาว่า 'รัศมีแข'

รัศมีแขคืออะไร

รัศมีแขเป็นสิ่งมีชีวิตและมีหลายขา รัศมีแขคืออะไร

รัศมีแขเป็นสิ่งมีชีวิตและมีหลายขา เดินเซไปเซมา รัศมีแขคืออะไร

รัศมีแขเป็นสิ่งมีชีวิตและมีหลายขา เดินเซไปเซมา มีแขนสองข้าง
รัศมีแขคืออะไร

รัศมีแขเป็นสิ่งมีชีวิตและมีหลายขา เดินเซไปเซมา มีแขนสองข้าง
มีตานอกตัว รัศมีแขคืออะไร

รัศมีแขคือ ปู ปูเป็นสิ่งมีชีวิตและมีหลายขา เดินเซไปเซมา
มีแขนสองข้าง มีตานอกตัว

     โดยรูปปริศนาเราไม่จำเป็นต้องวาดรูปทรงให้คล้ายกับตัวเฉลยก็ได้ เราสามารถวาดให้มันออกมาแปลกประหลาดได้อย่างอิสระเพราะเราต้องการให้เด็กเรียนรู้ถึงคำใบ้เกี่ยวกับตัวเฉลยนั้นๆมากกว่าที่จะให้เด็กเรียนรู้จากรูปภาพ

การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้♥

      ความรู้ในวันนี้สามารถนำเอาไปใช้ได้จริงในอนาคตเพื่อเป็นการฝึกทักษะภาษาอย่างดีสำหรับเด็กและถือเป็นการทวนประสบการณ์เดิมของเด็กได้อีกด้วย

การประเมินผล♥

▶ตัวเอง ตั้งใจช่วยเพื่อนคิดงานอย่างเต็มที่แต่ไม่ค่อยได้ช่วยงานเท่าไหร่เพราะวาดรูปไม่เก่ง จึงรับหน้าที่ในการระบายสีงานแทน แต่ก็ให้ความร่วมมือกับเพื่อนอย่างเต็มที่

▶เพื่อน วันนี้เพื่อนๆให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมเป็นอย่างมาก ตั้งใจทำงานกลุ่มร่วมกันอย่างสุดความสามารถ

▶อาจารย์ วันนี้อาจารย์ก็ยังให้ความรู้กัยนักศึกษาอย่างเต็มที่ คอยดูแลและให้คำแนะนำเกี่ยวกับงานเป็นอย่างดี

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 11   

วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายน 2559 เวลา 13.30-17.30น.



ความรู้ที่ได้รับ♥

      วันนี้อ.เบียร์ได้สอนเกี่ยวกับวิธีการทำนิทานโดยที่เด็กๆเป็นผู้แต่งนิทานเรื่องนั้น นิทานที่เด็กๆแต่งขึ้นนั้นจะเป็นเรื่องที่มาจากประสบการณ์เดิมที่เด็กๆได้รับหลังจากการออกไปทัศนศึกษาในการเรียนแบบProject Approch โดยเริ่มแรกจะให้เด็กๆช่วยกันคิดหัวข้อที่จะนำมาแต่งเป็นนิทาน หัวข้อเรื่องของนิทานครูจะเป็นผู้ช่วยโน้มน้าวเด็กๆคนอื่นให้เลือกหัวข้อที่คิดว่าเหมาะสมกับเด็กและเมื่อได้หัวข้อเรื่องแล้วก็จะมาเริ่มให้เด็กคิดเนื้อหานิทานโดยให้เด็กๆช่วยกันเสนอเนื้อเรื่องออกมาและครูจะคอยเป็นผู้โน้มน้าวที่เพื่อนได้ตัดสินใจเลือกว่าจะเอาเนื้อเรื่องนั้น เด็กๆอาจจะอยากให้นิทานขอพวกเขานั้นมีเพียงไม่กี่หน้าซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด และเมื่อแต่งนิทานเสร็จเรียบร้อยแล้วครูจะอ่านเนื้อกาในนิทานให้เด็กๆได้ฟังก่อนจึงค่อยมาตั้งชื่อเรื่องภายหลังโดยให้สอดคล้องกับเนื้อหาในนิทาน หลังจากนั้นครูจะให้เด็กๆแบ่งกลุ่มตามจำนวนหน้าของนิทานเพื่อให้เด็กๆได้วาดรูปลงไปในกระ
ดาษนั้น หลังจากนั้นก็จะนำเอานิทานแต่ละหน้ามารวมเข้าไว้ด้วยกันเพื่อให้เป็นรูปเล่มนิทาน

      

      หลังจากอธิบายขั้นตอนวิธีการเสร็จเรียบร้อยแล้วอ.เบียร์ก็ได้จำลองสถานการณ์การทำหนังสือนิทานโดยให้นักศึกษาช่วยกันกำหนดหัวข้อและแต่งเนื้อเรื่องนิทาน เมื่อแต่งเสร็จก็ให้นักศึกษาแบ่งกลุ่มกันเพื่อทำนิทานตามหน้าที่ตนเองได้รับผิดชอบ ซึ่งพวกเราได้ทำนิทานเรื่อง ดอกไม้กับผีเสื้อ

การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้♥

      ได้เรียนรู้ขั้นตอนการให้เด็กๆทำหนังสือนิทานด้วยตัวของพวกเขาเองว่าควรเริ่มจากอะไรและจบอย่างไร ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญในการนำไปใช้ในภายภาคหน้าได้เป็นอย่างดี

 

การประเมินผล♥

▶ตัวเอง  ค่อนข้างตั้งใจเรียนแต่จะมีพูดคุยกับเพื่อนบ้างบางเวลา

▶เพื่อน  เพื่อนๆตั้งใจฟังในสิ่งที่ครูสอนกันทุกคน มีบางเวลาที่พูดคุยกันแต่ก็กลับมาตั้วใจเรียนแบบเดิมได้

▶อาจารย์  อาจารย์มีความตั้งใจอย่างสูงในการมาสอนนักศึกษา สอนให้นักศึกษาเข้าใจถึงขั้นตอนและวิธีการได้อย่างชัดเจน 

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่10

วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายน 2559 เวลา 13.30-17.30น.

 

ความรู้ที่ได้รับ♥

     วันนี้อ.เบียร์ได้ให้นักศึกษาทดลองเขียนชาร์ตแนวตั้งเพื่อเป็นการฝึกฝนทักษะในการเขียนโดยการแบ่งกลุ่มกันกลุ่มละ4-5คน แล้วให้ทุกคนในกลุ่มสลับกันออกมาทดลองเป็นคุณครูและให้เพื่อนๆในกลุ่มเป็นเด็กเพื่อที่จะได้ฝึกเขียนชาร์ตในหัวข้อประสบการณ์เดิม เราได้เลือกหัวข้อของเราเอง ซึ่งเราเลือกหัวข้อลิง หลังจากนั้นเราก็จะถามเพื่อนๆที่แสดงเป็นเด็กให้เราว่ามีประสบการณ์เดิมเกี่ยวกับลิงอย่างไรบ้าง














โดยเด็กๆในกลุ่มของเราเล่าประสบการณ์เดิมว่า
น้องอิง : เคยเห็นลิงที่ลพบุรี
น้องต้องตา : เคยเห็นลิงที่สวนสัตว์
น้องเจน : เคยเห็นลิงในการ์ตูน
น้องฟีฟ่า : ลิงกินกล้วย
น้องแอนฟิลด์ : หนูมีตุ๊กตาลิง

ในขณะที่เขียนชาร์ตอยู่นั้นเราต้องมีการพูดคุยกับเด็กๆและหันไปมองเด็กๆอยู่เสมอเพื่อไม่ให้เด็กๆซุกซนหรือลุกขึ้นวิ่งเล่น และเมื่อเราเขียนชาร์ตประสบการณ์เดิมที่เด็กๆบอกเราเสร็จแล้วเราต้องอ่านให้เด็กๆฟังและให้เด็กๆอ่านตามเราด้วย

ชาร์ตประสบการณ์เดิมของเรา

     ปล.ถ้าในประโยคมีคำที่เป็นหัวข้อของเราให้ใช้ปากกาสีอื่นมาเน้นเพื่อให้เด็กๆได้รู้ว่าคำที่เน้นคือคำเดียวกันกับหัวข้อ ซึ่งในชาร์ตของเราจะเน้นที่คำว่า ลิง เพราะเป็นคำที่ตรงกับหัวข้อ

       

       หลังจากนั้นอ.เบียร์ได้สอนเพลงใหม่ให้พวกเราอีก5เพลง ได้แก่ เพลงอะไรเอ่ย เพลงกระต่าย เพลงลูกสัตว์ เพลงนั่งรถไฟและเพลงเรือพาย 

การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้♥

     ความรู้ที่ได้รับในวันนี้ถือเป็นความรู้ที่สำคัญมากและสามารถนำเอาไปใช้ได้จริงตอนฝึกสอนหรือตอนจบไปเป็นครูแล้ว



การประเมินผล♥

▶ตัวเอง พยายามเขียนชาร์ตให้ออกมาดีอย่างเต็มความสามารถแต่ก็ยังออกมาไม่ค่อยดีเท่าไหร่เพราะขาดการฝึกฝน แต่หลังจากนี้ก็จะพยายามทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ
▶เพื่อน ให้ความร่วมมือในการโต้ตอบเวลาเราถามเป็นอย่างดี อาจจะมีแกล้งหรือพูดคุยกันบ้างเล็กน้อย
▶อาจารย์ อาจารย์คอยให้คำปรึกษาและคอยบอกวิธีการเขียนให้กับเราอย่างเต็มที่และสุดความสามารถ เพื่อให้นักศึกษาได้รับความรู้อย่างเต็มที่

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 9 

วันพฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม 2559 เวลา 13.30-17.30น.



ความรู้ที่ได้รับ♥

     วันนี้เป็นการเรียนรู้วิธีการสอนแบบโครงการหรือProject Approch ซึ่งการเรียนการสอนแบบนี้เป็นการเปิดโอกาสให้เด็กๆได้เรียนรู้ในเรื่องที่เด็กสนใจโดยการกำหนดหัวข้อ หัวข้อที่จะเรียนรู้อาจได้มาจากเด็ก จากครูหรือทั้งจากเด็กและครู การเรียนรู้แบบโครงการมีระยะเวลาที่ยาวขึ้นอยู่กับความก้าวหน้าของโครงการ ครูสามารถนำเอาวิชาอื่นๆมาบูรณาการร่วมด้วยก็ได้ วันนี้อ.เบียร์ได้ให้พี่ๆปี5มาสาธิตวิธีการสอนให้กับพวกเรา 

พี่ปี5สาธิตวิธีการสอนแบบโครงการ

พี่ๆปี5สาธิตวิธีการสอนแบบโครงการ

     โดยเริ่มตั้งแต่ อนุบาล1 ครูจะถามเด็กๆทุกคนว่าอยากเรียนรู้เรื่องอะไรโดยจะนำหัวข้อที่เด็กๆเสนอซ้ำกันมาแบ่งออกเป็น3กลุ่มแล้วให้เด็กเดินไปนั่งตามกลุ่มที่เด็กๆสนใจอยากจะเรียนรู้ และเมื่อเด็กๆแบ่งตามกลุ่มเรียบร้อยแล้วจะให้เด็กๆออกมาพูดถึงประสบการณ์เดิมที่รู้เกี่ยวกับหัวข้อนั้นๆเพื่อเป็นการชักจูงให้เพื่อนคนอื่นๆเปลี่ยนใจมาเลือกหัวข้อของเรา 

     อนุบาล2 การกำหนดหัวข้อของอ.2จะคล้ายๆกับของอ.1แต่จะต่างกันตรงที่การแบ่งกลุ่มเพื่อเลือกหัวข้อ โดยของอ.2จะแบ่งกลุ่มออกเป็นเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงแล้วให้เด็กๆได้พูดคุยกันในกลุ่มว่ากลุ่มเด็กผู้ชายอยากเรียนรู้เรื่องอะไร เด็กผู้หญิงอยากเรียนรู้เรื่องอะไรแล้วให้ตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมาพูดถึงกิจกรรมที่เราจะได้ทำในหัวข้อนั้นๆถ้าหัวข้อเราถูกเลือก 

รูปแบบชาร์ตการเลือกหัวข้อของอ.2

     อนุบาล3 การกำหนดหัวข้อของเด็กๆอ.3ครูจะสุ่มถามเด็กเพียงบางคนจะไม่ได้ถามทุกคนแล้วให้เด็กๆแบ่งตามกลุ่มสีที่ตัวเองอยู่ โดยการแบ่งกลุ่มตามสีนั้นเด็กแต่ละคนจะถูกแบ่งตามกลุ่มกันตั้งแต่ช่วงเปิดเทอมแล้ว โดยเมื่อเด็กแบ่งตามกลุ่มแล้วจะให้แต่ละกลุ่มช่วยกันระดมความคิดเรื่องที่เราอยากเรียนรู้กันแล้วให้ตัวแทนแต่ะกลุ่มออกมาพูดถึงกิจกรรมที่จะได้ทำในหัวข้อนั้นๆ  

รูปแบบชาร์ตการเลือกหัวข้อของอ.3

     ปล.1 การเลือกหัวข้อแต่ละโครงการนั้นครูจะเป็นผู้เลือกไว้ในใจซึ่งครูจะไม่ได้เป็นคนตัดสินใจเลือกและบังคับให้เด็กๆเลือกหัวข้อนั้นๆตามที่ครูบอก แต่ครูจะเป็นคนที่พูดชักจูงให้เด็กคนอื่นๆหันมาสนใจและเลือกหัวข้อตามที่ครูได้เลือกไว้ในใจแทน 

     ปล.2 การเลือกหัวข้อโครงการควรคำนึงถึงความเหมาะสม เวลาและสถานที่ ซึ่งหัวข้อนั้นต้องไม่ไกลตัวเด็กจนเกิน ควรเป็นเรื่องรอบๆตัวเด็ก เช่น อาหาร  สัตว์ หรือสิ่งของ

                                                 

     หลังจากเลือกหัวข้อเสร็จเรียบร้อยแล้วครูจะถามประสบการณ์เดิมของเด็กที่เกี่ยวกับหัวข้อโครงการที่จะเรียนรู้กันและให้เด็กๆตั้งคำถามที่อยากรู้เกี่ยวกับหัวข้อโครงการ โดยตัวอย่างที่อ.เบียร์ได้เอามาให้เราเรียนรู้นั้นเป็นการเลือกโครงการของเด็กอ.2 ที่จะเรียนรู้เรื่องพิซซ่า

ชาร์ตการเลือกโครงการพิซซ่าของเด็กอ.2

     

ประสบการณ์เดิมเกี่ยวกับพิซซ่า

คำถามที่เด็กๆอยากรู้เกี่ยวกับพิซซ่า

    หลังจากที่ได้รู้วิธีการสอนแบบโครงการแล้วนั้นอ.เบียร์ให้พวกเราแบ่งกลุ่มทำชาร์ตการเลือกหัวข้อซึ่งกลุ่มของเราได้ทำชาร์ตของเด็กอ.2 โดยทำเป็นตารางแบ่งกลุ่มเด็กผู้ชายและกลุ่มเด็กผู้หญิงแล้วให้ออกไป

ชาร์ตอ.2กลุ่มเรา

การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้♥

     การเรียนวันนี้ทำให้เราได้รู้ขั้นตอนการเลือกหัวข้อโครงการของแต่ละระดับชั้นว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากในการออกฝึกสอนในปีที่5หรือแม้กระทั่งการเป็นครูหลังจากเรียนจบการศึกษาแล้ว

การประเมินผล♥

▶ตัวเอง ตั้งใจฟังในสิ่งที่พี่ๆอธิบายและสาธิตการสอนอย่างตั้งใจ แต่มีอุปสรรคทางด้านร่างกายเพียงเล็กน้อยที่ทำให้ไม่ค่อยได้ร่วมกิจกรรมอย่างเต็มที่

▶เพื่อน เพื่อนๆทุกคนให้ความร่วมมือและตั้งใจเรียนรู้ในสิ่งที่พี่สาธิตการสอนเป็นอย่างดี อาจจะมีคุยกันบ้างเพียงเล็กน้อย

▶อาจารย์ อาจารย์ถ่ายทอดความรู้ให้นักศึกษาอย่างเต็มที่และครบถ้วน ทำให้นักศึกษาได้เรียนรู้และเข้าใจวิธีการสอนอย่างชัดเจนโดยให้พี่ๆมาสาธิตให้เข้าใจอย่างกระจ่างมากยิ่งขึ้น